
ข้อดีของการบริจาคโลหิต
การบริจาคโลหิต คือ การเก็บโลหิตจากผู้มีความประสงค์จะบริจาค แล้วนำโลหิตดังกล่าว ผ่านกระบวนการคัดกรอง หากมีคุณสมบัติที่ดีจะถูกนำไปเก็บใน ธนาคารโลหิต หรือส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อนำออกมาใช้ในยามฉุกเฉิน
การบริจาคโลหิต สามารถทำได้ทุกๆ 3 - 4 เดือน ตามความเหมาะสมของสภาพร่างกายของบุคคลที่จะบริจาค ซึ่งผู้บริจาคจะต้องมีคุณสมบัติ ประกอบกับสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งมีหน่วยเคลื่อนที่บริการในการรับบริจาคโลหิต หรือสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์รับบริจาคประจำจังหวัด ของสภากาชาดไทย
ผู้บริจาค ควรมีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้
1.เป็นผู้มีอายุระหว่าง 17 - 60 ปี
2. มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง น้ำหนักตั้งแต่ 45 กิโลกรัมขึ้นไป
3.ไม่มีประวัติการเป็นโรคมาลาเรีย ในระยะ 3 ปี
4.ไม่มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ หรือดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง
5. ผู้หญิง ไม่อยู่ในระยะประจำเดือน หรือ มีครรภ์
6.ไม่ควรบริจาคหลังทำการผ่าตัด ในระยะ 6 เดือน
7.ผู้เคยรับโลหิตงดบริจาค 1 ปี
8. งดสูบบุหรี่ก่อนบริจาค 12 ชั่วโมง
9.ไม่ทานยาแก้อักเสบก่อนบริจาค 1 สัปดาห์
10.ไม่ได้รับเลือดจากผู้อื่นมาระยะ 6 เดือน
11.ไม่ได้รับวัคซีนภายใน 14 วัน เซรุ่มภายใน 1 ปี
12.ไม่ได้มีสัมพันธ์กับบุคคลอื่นที่มิใช่คู่สมรส
13.มีการนอนหลับสนิท ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง
14.ไม่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อการบริจาคโลหิต เช่น กามโรค โรคติดเชื้อต่าง ๆ ไอเรื้อรัง ไอมีโลหิต โลหิตออกง่ายผิดปกติ หยุดยาก โรคเลือดชนิดต่าง ๆ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคลมชัก โรคผิวหนังเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคไต โรคเบาหวาน โรคไทรอยด์ มะเร็ง หรือโรคอื่นๆ
15.ไม่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ หรือสำส่อนทางเพศ ได้แก่ ท่านหรือคู่สมรสของท่าน เคยมีเพศสัมพันธ์กับหญิงหรือชาย ที่ขายบริการทางเพศ หรือ มีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย
16.ไม่ทำการเจาะหู สัก ลบรอยสัก ฝังเข็มในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
17.ไม่มีประวัติติดยาเสพติด หรือเคยเป็นผู้ที่เสพยาเสพติดโดยใช้เข็มฉีดยา
18.ไม่เป็นผู้ติดเชื้อเอดส์
19. สตรีไม่อยู่ในระหว่างมีประจำเดือน ตั้งครรภ์หรือ ให้นมบุตร และไม่มีการคลอดบุตรหรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมา
20.งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนบริจาค
21.รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง และยาธาตุเหล็กเพิ่ม
